7 ข้อสู่การเรียนรู้ความเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง

0

บางคนไม่ได้เกิดมาเป็นผู้นำโดยกำเนิด แต่การเรียนรู้ความเป็นผู้นำที่เข้มแข็งสามารถบ่มเพาะได้จากประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา หรือทางลัดคือทำตามแนวทางของผู้ที่เคยประสบความสำเร็จมาก่อน

เหมือนกับชีวิตของนักบาสเก็ตบอล NBA 8 สมัย นามว่า Obinna Ekezia ซึ่งผันตัวเองสู่การเป็นนักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จ ปัจจุบันเขาเป็น CEO ของ Walkanow.com เว็บไซต์ที่ให้บริการท่องเที่ยวครบวงจรอันดับหนึ่งของแอฟริกา

Obinna เริ่มต้นจากการเปิดร้านพิซซ่า, ทำบริษัทดิจิคอลมาร์เก็ตติ้ง และบริษัทท่องเที่ยวทั่วโลกออนไลน์ ทุกไลน์ธุรกิจของเขามีเส้นทางความสำเร็จแตกต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือทุกกิจการล้วนต้องการผู้นำที่เข้มแข็ง มีวิสัยทัศน์ยาวไกล และชัดเจนเด็ดขาด เพื่อนำพาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จ ส่วนหนึ่ง Obinna เรียนรู้จากประสบการณ์ขณะเป็นนักบาสเก็ตบอลอาชีพ

และนี่คือสิ่งที่เขาเชื่อว่าเป็นคุณสมบัติสำคัญซึ่ง นักธุรกิจต้องมี…

  1. เลือกคนเข้าทีมที่มีความสามารถเฉพาะทาง

ผู้นำที่เข้มแข็ง (3)

อย่าเลือกคนที่เกือบใช่ แต่จงมองหาคนที่มีคุณภาพในแบบที่คุณต้องการอย่างแท้จริง สำหรับตัวเขาเองเรียนรู้การเลือกคนที่มีพรสวรรค์เข้ามาอยู่ในทีมจากช่วงที่เล่นบาสเก็ตบอลอาชีพ  โดยจะวิเคราะห์ถึงความสามารถของผู้เล่นตลอดจนรายละเอียดต่างๆ เช่น ทัศนคติของผู้เล่นหลังออกจากสนามแข่ง ซึ่งในเวลาต่อมาได้นำหลักการนี้มาใช้กับการทำธุรกิจ เพราะปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้นั้นคือการมีคนเก่งร่วมทีม

  1. มีความสามารถในการพูด

นักธุรกิจไม่เพียงแต่จะต้องมีทิศทางของตัวเองในการสร้างความสำเร็จเท่านั้น หากต้องสามารถนำเสนอวิสัยทัศน์ของบริษัทให้กับลูกทีมหรือลูกค้าเข้าใจได้ง่าย เจ้าของกิจการควรเรียนรู้ทักษะการพูดในที่สาธารณะ ไม่ว่าผู้ฟังจะเป็นกลุ่มเล็กหรือกลุ่มใหญ่

ลองฝึกพูดทุกๆ โอกาสที่เป็นไปได้ สิ่งไหนที่คุณไม่มั่นใจ คุณยิ่งต้องฝึกทำมันบ่อยๆ จนเกิดความเคยชินและสามารถเอาชนะความกลัวได้สำเร็จ ผู้นำที่พูดจาน่าฟังสามารถอธิบายถึงผลิตภัณฑ์/บริการได้อย่างชัดเจน ตรงประเด็น ไม่เยิ่นเย้อ ล้วนทำให้ผู้ฟังเกิดความเชื่อมั่นและไว้ใจ

  1. รับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างยืดหยุ่น

ผู้นำที่เข้มแข็ง (4)

คนเราไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ หากไม่รู้จักปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลง และนี่คือความจริงของโลกธุรกิจ หากคุณยึดติดและปฏิเสธการเปลี่ยนแปลงไปตามโลก คุณจะไม่สามารถต่อสู้กับคู่แข่งรายอื่นๆได้ เพราะโลกรอบตัวเราล้วนเปลี่ยนผันไปตามยุคสมัย และมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา (ลองนึกถึงการผลิตรถยนนต์ที่ใช้ไฟฟ้าในโรงงานรถยนต์ หรือนวัตกรรมการผลิตอาหารออร์แกนิกส์ที่ปลอดภัยต่อสุขภาพในโรงงานอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งเป็นตัวอย่างของการปรับตัวตามเทรนด์โลกที่เปลี่ยนไปได้เป็นอย่างดี

  1. ยินดีกับผลลัพธ์และน้อมรับคำวิจารณ์

ผู้นำบริษัทควรเปิดใจยอมรับกับคำวิพากษ์วิจารย์และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะดีหรือไม่ ควรรับฟังคำติติงจากผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่าหรือประสบความสำเร็จมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ ดังเช่นเมื่อ Obinna สร้าง Walkanow.com ขึ้นมา เขาบอกว่า…

“ผมพยายามฟังสิ่งที่คนอื่นๆ อยากจะพูดกับผม โดยเฉพาะผู้คนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เราต้องยอมรับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นและใช้คำวิจารณ์จากลูกค้ามาปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น”

  1. เรียนรู้จากความล้มเหลว

ผู้นำที่เข้มแข็ง (1)

เพราะความล้มเหลวมักจะมาเคียงคู่กับการเริ่มต้นทำธุรกิจเสมอ แต่มันขึ้นอยู่กับว่าคุณจัดการกับความล้มเหลวนั้นอย่างไร จำไว้ว่าการมีทัศนคติเชิงบวกจะช่วยให้คุณมองเห็นหนทางแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ หัดมองความล้มเหลวว่าเป็นโอกาสของการเรียนรู้เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาด และหากมันเกิดขึ้นซ้ำอีก จงยอมรับมันและศึกษาว่าอะไรที่ผิดพลาดไป เรียนรู้ที่จะไม่ทำผิดซ้ำ

  1. ทบทวนผลงานและอัพเดตแผนอยู่เสมอ

เมื่อเริ่มก่อตั้งธุรกิจ แผนงานที่คุณวางไว้อาจจะยังไม่นิ่งและเปลี่ยนไปมาอยู่บ่อยๆ เพราะสิ่งที่คุณคิดเมื่อลงมือทำอาจจะใช้ไม่ได้ เนื่องจากมีปัจจัยอื่นๆ เกิดขึ้น ดังนั้น อย่าชะงัดงันกับสิ่งที่ไม่คาดฝัน แต่จงหมั่นทบทวนแผนของคุณและอนาคตที่วาดไว้อยู่เสมอ โดยอาจอัพเดตแผนงานเป็นรายสัปดาห์แล้วในแต่ละวันให้โฟกัสไปที่กรทำตามแผนล่าสุด มันจะทำให้คุณทำงานง่ายขึ้นและมีจุดหมาย

  1. จัดสมดุลเรื่องงานและชีวิตส่วนตัว

ผู้ที่เริ่มต้นทำธุรกิจมักทุ่มเทเวลาไปกับงาน และใช้เวลาเกือบทั้งหมดในการคิดแต่เรื่องงานจนทำให้ชีวิตส่วนตัวพัง สิ่งที่ควรทำคือต้องรู้จักจัดสมดุลชีวิตการทำงานกับชีวิตส่วนตัวให้ดี ครอบครัวควรจะมาเป็นที่หนึ่ง

ผู้นำที่เข้มแข็ง (2)

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีลูก นอกจากนี้ จงใช้เวลาส่วนตัวในการเล่นกีฬาที่ชอบ อ่านหนังสืที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ หรือทำกิจกรรมที่ทำให้เลิกคิดเรื่องงาน การได้พักผ่อนสมองอย่างเต็มที่จะทำให้คุณรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย เมื่อกลับเข้าสู่โหมดของการทำงานอีกครั้ง คุณจะมีพลังสร้างสรรค์อย่างเต็มเปี่ยม

ทั้ง 7 ข้อที่เฮียหยิบยกมาจากนิตยสาร Lisa นั้น อาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องของสุขภาพโดยตรง แต่ว่าสิ่งที่เฮียอยากให้ทุกคนได้เล็งเห็นคือ การรู้จักสร้างสมดุลให้ชีวิต แม้ว่าเรื่องของความฝันจะเป็นปลายทางที่เราอยากไปให้ถึงแค่ไหนก็ตามแต่ระหว่างทางคือ เรื่องราวที่เราจะต้องทำมันให้ดีที่สุดด้วยเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ สุขภาพร่างกายและทักษะต่างๆ นั่นเอง

 

ที่มา : Lisaguru.com

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *