ต้องบอกเลยว่า “ดื่มน้ำเยอะๆ” เป็นอีกหนึ่งเทรนด์เรื่องสุขภาพที่แสนจะเบสิคพื้นฐาน สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มหันมาสนใจดูแลสุขภาพอย่างจริงจัง จากบทความเรื่อง Body Water Infographic ภาพมันฟ้อง… ทำไมต้องดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว? บอกว่า
“น้ำ” เป็นส่วนประกอบของร่างกายมากถึง 70% และทุกๆ เซลล์มีน้ำ จึงทำให้มีการหมุนเวียนน้ำในร่างกายตลอดเวลา อีกทั้งน้ำยังทำหน้าที่เป็นตัวทำละลายหลักสำหรับอาหารที่ผ่านกระบวนการย่อยในกระเพาะ เราจึงควรดื่มน้ำให้เพียงพอ
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่อยากชวนให้เพื่อนๆ เห็นความสำคัญของารดื่มน้ำมากๆ แต่มีบางเรื่องที่เพื่อนๆ อาจยังไม่รู้มาก่อนว่า การดื่มน้ำในแต่ละช่วงเวลาก็มีความหมายและให้ประโยชน์ที่แตกตางกันออกไปด้วยเหมือนกัน
1. 6.00 – 8.00 น.
ดื่มน้ำเย็น 2 แก้วในตอนเช้า หลังตื่นนอน ก่อนกินมื้อเช้า
- ช่วยขับล้างสารพิษ
- ปลุกสมองและร่างกาย
- เริ่มต้นระบบเผาผลาญได้ถึง 24% ก่อนกินมื้อเช้า
- กระตุ้นการย่อยอาหาร
2. 9.00 – 10.00 น.
ดื่มน้ำ 1 แก้วในตอนเช้า ก่อนจะเริ่มกินของว่างต่างๆ ก่อนทำงาน
- ช่วยเรื่องสุขภาพข้อต่อดีขึ้น
- เป็นการส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เป็นการเติมน้ำให้ผิว ดูอ่อนเยาว์
3. 10.00 – 12.00 น.
ดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนมื้อเที่ยง ราวๆ ครึ่งชั่วโมง
- ช่วยเบิร์นไขมันได้มากกว่า 2 กิโลกรัมต่อปี แบบไม่ต้องออกกำลังกายเลย
- หลังจากดื่ม 40 นาทีจะรู้สึกอารมณ์ดี สดชื่น
- ไอเดียผุด เปล่งประกาย
4. 12.00 – 14.00 น.
ดื่มน้ำ 1 แก้วหลังมื้อเที่ยง ราวๆ ครึ่งชั่วโมง
- ช่วยชลอวัย อวัยวะในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม
- เพิ่มการผลิตเม็ดเลือดและเซลล์
5. 14.00 – 16.00 น.
ดื่มน้ำเย็นสักแก้ว หากรู้สึกง่วงนอนในตอนบ่ายแบบนี้
- เป็นการกระตุ้นพลังงานในร่างกาย
- ลดอาการเหนื่อยล้า
- ช่วยเพิ่มกิจกรรมของเอนไซม์ในร่างกาย
- ลดคอเลสเตอรอล
6. 16.00 – 18.00 น.
ดื่มน้ำ 1 แก้ว ก่อนมื้อเย็นประมาณ 30 นาที
- ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งลำไส้ได้ถึง 45%
- ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ 50%
7. ก่อนนอน
ดื่มน้ำ 1 แก้ว ก่อนนอนประมาณ 20 นาที
- ชะล้างสารพิษ
- ลดอาการอักเสบที่เกิดจากแบคทีเรีย