12 ข้อ ปรับพฤติกรรมให้ “เลิกติดหวาน”

0

เพื่อนๆ เป็นคนหนึ่งที่ระหว่างวันรู้สึกอยากของหวาน หรือว่าน้ำตาลอยู่บ่อยๆ หรือเปล่า? Keri Glassman นักโภชนาการและผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Nutritious Life กล่าวถึงวิธีที่จะช่วยหยุดอาการอยากของหวานแบบเรียบง่ายว่า “เราต้องเน้นกินอาหารที่หลากหลายเจ้าไว้ เพราะจะทำให้รู้สึกสดชื่นซึ่งช่วยลดอาการอยากของหวานหรือน้ำตาลได้”  

แต่หากเพื่อนๆ รู้สึกว่าตัวเองเข้าขั้นติด “น้ำตาล” เรามาลองดูกันว่าจะมีวิธีไหนที่จะช่วยลดอาการดังกล่าวได้บ้าง? เป็นวิธีให้เพื่อนๆ นำไปใช้และค่อยๆ ปรับพฤติกรรมดู

twelve-adjustments-to-behavior-quit-sugar-addiction-2

  1. ไม่ข้ามมื้ออาหาร Kate Scarlata นักโภชนาการบอกว่าการข้ามมื้ออาหารจะยิ่งทำให้ร่างกายยิ่งต้องการอาหารมากขึ้น รวมไปถึงน้ำตาลด้วย
  2. กินอัลมอนด์แทน ถ้าโดนความอยากจู่โจม แทนที่จะกินพวกของหวาน ให้ลองเปลี่ยนเป็นอัลมอนด์แทน มันจะช่วยลดอาการอยากของหวานได้ยาวนานขึ้น
  3. ดื่มน้ำให้มากๆ นอกจากช่วยดับอาการกระหายแล้วยังช่วยรู้สึกอิ่ม ทำให้เราไม่กินของหวานอื่นๆ
  4. วางแผนมื้ออาหาร เพราะเรามีแผนการกินอยู่แล้วทำให้ช่วยป้องกันการกินเกิน รวมทั้งการกินของหวานเกินพอดีได้อีกทางหนึ่งด้วย
  5. อย่าอดนอน Frances Largeman-Roth นักโภชนาการอีกท่านได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “งานวิจัยมากมายบอกเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งผลที่รู้กันดีคือ เมื่อเราอดนอนจะเกิดอาการอยากของหวานมากกว่าปกติ”
  6. หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็ม เพราะว่าสองรสชาตินี้อยู่ตรงข้ามกัน เมื่อเรากินเค็มมากๆ จะนำมาซึ่งอาการอยากของหวานตามมานั่นเอง Keri Glassman บอกว่านี่คือทริคที่คนลดหวานต้องรู้เลยนะ!
  7. กินโปรตีนและไฟเบอร์ เพราะทั้งสองอย่างจะช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเพื่อป้องกันการเกิดน้ำตาลในเลือด ซึ่งจะทำให้เราอยากน้ำตาลมากขึ้นนั่นเอง
  8. ถ้าอยากมากให้กินเลย! ไม่ได้พูดเล่นแต่ถ้ารู้สึกทนไม่ไหวจริงๆ ให้กิน แต่ต้องรู้ตัวว่าเรากินไปแล้วในช่วงเช้า ช่วงเย็นเราจะไม่กินอีกแล้วนะ ใช้คำว่า “เลี่ยง” แทนนั่นเอง
  9. ตัดใจ นอกจากตามใจตัวเองเก่งแล้วก็ต้องตัดใจให้เก่งด้วย! ไม่ได้พูดถึงดราม่าเรื่องไหนกำลังพูดถึงเรื่องลดอาการอยากของหวานนี่แหละ เพราะถ้าไม่หักห้ามใจบ้างเราก็จะไปถึงเป้าหมายได้ยาก
  10. อย่ากินเพราะอารมณ์ ส่วนหนึ่งของน้ำหนักที่เกินคือ “การกินตามใจปาก” ลองดูว่า นี่เรากำลังกินเพราะเครียดหรือเปล่า? หากรู้ตัวว่าเครียดให้หาทางผ่อนคลายอย่างอื่น ไม่อย่างนั้นอาจเครียดหนักกว่าเดิม
  11. กินผลไม้มากๆ ถ้าเราอยากน้ำตาลก็ลองหาทางแก้ด้วยการเติมน้ำตาลธรรมชาติให้ร่างกายแทนลูกอมแบบ Sugar Free เรียกได้ว่าใช้แก้ขัด เหมือนได้บำบัดแต่อย่าปล่อยกินตามใจปากจนกลายเป็นติดเจ้าลูกอมนั่นแทนนะคะ

เพราะ “น้ำตาล” เป็นจุดเริ่มต้นโรคอ้วนและโรคร้ายแรงต่างๆ โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคสมองเสื่อม โรคซึมเศร้า สิว โรคเบาหวานชนิดที่ 2 รวมถึงภาวะมีบุตรยาก ดังนั้น หยุด ลด เลี่ยง ตั้งแต่วันนี้จะดีที่สุดนะคะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *