“อาหารเป็นพิษ” คือ หนึ่งในโรคที่ได้รับการเตือนภัยมากที่สุดในช่วงอากาศร้อน โดยข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พบคนไทยป่วยด้วยโรคอาหารเป็นพิษ จำนวน 17,651 ราย ดูเหมือนน้อยแต่จริงๆ แล้วนั่นเป็นตัวเลขสองเดือนแรกของปี 2019 เท่านั้น เนื่องจากเป็นเรื่องของอาหารการกินและตัวเลขดังกล่าว ทำให้โรคนี้กลายเป็นโรคใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “อาหารไทย” หลายๆ เมนูเป็นสาเหตุของ อาหารเป็นพิษ และบางคนไม่รู้มาก่อน ในบทความนี้เฮียลองรวบรวมอาหาร 9 เมนูที่ได้ชื่อว่าแซ่บ เป็นเมนูโปรด แต่… เสียง่ายและอาจกลายเป็นที่มาของอาการอาหารเป็นพิษ!
อาหารเป็นพิษ คืออะไร?
เกิดขึ้นจากเรากินอาหารที่ปนเปื้อนด้วยแบคทีเรีย ปรสิต ไวรัสหรือสารที่เป็นอันตรายอื่นๆ อาการที่พบได้มักคือผู้ป่วยมักปวดท้อง ร่วมกับถ่ายบ่อย ท้องร่วง คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร รวมทั้งบางคนมีอาการไข้ กลุ่มคนที่เสี่ยง ได้แก่ คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง มีภาวะร่างกายอ่อนแอ เป็นอีกหนึ่งโรคที่สร้างผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน เพราะนอกจากเสียเงินค่าอาหาร (สร้างพิษ) แล้ว ยังต้องมาเสียค่ารักษาพยาบาล (สร้างค่าใช้จ่าย) กันอีก
1.ส้มตำ
เรื่องความแซ่บยืนหนึ่งเสมอกับเมนูนี้ แคลอรี่น้อยเหมาะกับช่วงลดน้ำหนัก ต่างชาติยกชื่อให้ว่า Thai Salad เพราะอุดมไปด้วยผักหลากหลายชนิด หลักๆ เป็นมะละกอดิบ บางร้านอาจได้เห็นแครอทปนๆ เป็นเส้นมาบ้าง ซึ่งส่วนประกอบเหล่านี้อาจมีการปนเปื้อนและเป็นที่อยู่ของแบคทีเรียอย่าง อีโคไล (E. coli), ซาลโมเนลลา (Salmonella) และ ลิสเทอเรีย (Listeria) เพื่อลดความเสี่ยง หากทำเองควรล้างผักให้สะอาดก่อน แต่ถ้าทานที่ร้าน แนะนำว่าเลือกร้านที่ถูกสุขลักษณะด้วยนะครับ
2.ยำหอยแครง
ไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะเป็นเมนูที่กำลังอินกันสุดๆ ในนาทีนี้กับหลากหลายรีวิวของเหล่าบล็อกเกอร์บนยูทูป เรียกว่าเปิดไปทีไรต้องได้เห็นรีวิวตามไปทานยำกัน แต่หอยเป็นอาหารที่อาจมีสารพิษแฝงอยู่ อย่างสารฮีสตามีน สารนี้มักเจอหลังการปรุงไปแล้ว นั่นเท่ากับว่าต่อให้เราปรุงด้วยความร้อนก็อาจไม่หายไป ดังนั้น เลือกร้านขายหอยสดที่ดูปลอดภัย ในส่วนของร้านอาหารก็ต้องดูให้ถูกสุขลักษณะด้วยเช่นเดียวกัน
และการที่หลายคนอิน พากันไปชิมไปแซ่บกับเมนูนี้ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัยเสมอไปนะครับ แต่ถ้าอยากเพิ่มความมั่นใจเรื่องของสุขภาพ ลองหาประกันสุขภาพเสริมก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกแบบง่ายๆ
3.ต้มยำน้ำข้น
ในกรณีนี้เฮียขอกล่าวถึง ต้มยำน้ำข้น ที่ใช้ “นมสด” เป็นวัตถุดิบในการทำน้ำข้นนะครับ หากเพื่อนๆ เลือกใช้นมพาสเจอไรซ์ (Pasteurized milk) ถือว่าปลอดภัยในระดับหนึ่งครับ แต่สำหรับการใช้นมสดที่ไม่ผ่านกระบวนการพาสเจอไรซ์ อาจทำให้อาหารนั้นปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียและปรสิตที่เป็นอันตรายได้ ไม่ว่าจะเป็น อีโคไล, ซาลโมเนลลา, ลิสเทอเรีย หรือแคมไพโลแบคเตอร์ เช่นเดียวกับเมนูอื่นๆ ด้านบนครับ
4.แกงเขียวหวานไก่
ต่อกันอีกหนึ่งเมนูไก่ สำหรับส่วนประกอบที่เป็นไก่นั้นจัดอยู่ในหมวดเดียวกันกับเมนูไก่ทอดกระเทียม คือหากเพื่อนๆ ต้มไก่ไม่สุกจะเสี่ยงต่อเชื้อแบคทีเรีย 2 ชนิดดังกล่าว แต่สำหรับเมนูแกงเขียวหวานนั้น เพิ่มอีกส่วนผสมที่น่าเป็นห่วง “กะทิ” อีกทั้งยังมีส่วนประกอบของผัก มักบูดได้ง่าย หากเผลอทานเข้าไปอาจทำให้ท้องเกิดอาการแปรปรวนได้
5.ข้าว
ข้าวเปล่าๆ เลยนี่ล่ะครับ ความแซ่บของเมนูนี้คือ ข้าวเป็นอาหารจานหลักของคนไทยและหลายคนก็มองข้ามไปแบบง่ายๆ เริ่มต้นที่ข้าวดิบจะมีสารชื่อว่า บาซิลลัส ซีเรียส (Bacillus Cereus) แค่ชื่อก็บอกแล้วว่า “ซีเรียส” เพราะเมื่อเรานำข้าวสู่กระบวนการทำให้สุก แบคทีเรียชนิดนี้ก็ยังอยู่รอดได้ และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นด้วยหากเจอกับความชื้น ดังนั้น เมื่อหุงข้าวให้ทานทันที หากทานไม่หมดควรแช่ตู้เย็นไว้ครับ แล้วค่อยนำมาอุ่นทานทีหลัง
6.ไก่ทอดกระเทียม
จริงๆ แล้วเมนูนี้จะไม่เป็นอะไรเลยครับ หากเรามั่นใจว่า ไก่ทอดที่เรากินนั้นสุกจริงๆ เพราะปัญหาอยู่ที่หากเรากินไก่ทอดไม่สุก อาจได้รับเชื้อแบคทีเรีย 2 ชนิดคือ แคมไพโลแบคเตอร์ (Campylobacter) และ ซาลโมเนลลา ซึ่งพบได้ทั่วไปในขนของไก่ รวมไปถึงสัตว์ปีกอื่นๆ ด้วย
7.ก๋วยเตี๋ยวใส่ถั่วงอกดิบ
อีกหนึ่งท็อปปิ้งยอดฮิตของคนกินก๋วยเตี๋ยว โดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยวเรือมักมีจาน “ถั่วงอกดิบ” แยกไว้ให้เติมกันแบบไม่อั้นช่วยให้อิ่มมากขึ้น แต่ว่าในถั่วงอกดิบนั้นอาจปนเปื้อนด้วยแบคทีเรียอย่าง อีโคไล, ซาลโมเนลลา และลิสเทอเรีย ดังนั้น หากอยากกินถั่วงอก เฮียแนะนำให้ปรุงสุกเพื่อลดความเสี่ยงจะดีที่สุดนะครับ
8.ไข่เจียว
นุ่มฟูดูน่าทาน เมนูเยียวยาใจยามใกล้สิ้นเดือน แต่เดี๋ยวก่อนครับ! หากจะใช้ไข่ในการปรุงอาหาร ควรเลือกใบที่ดูสมบูรณ์ ไม่ใช่ไซส์ใหญ่แต่หมายถึงไข่ใบนั้นต้องไม่มีร่องรอย เปลือกแตกหรือสกปรก เพราะมันอาจปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียซาลโมเนลลา ซึ่งสามารถปนเปื้อนทั้งเปลือกไข่และด้านในของไข่
9.น้ำแตงโม
แตงโมสีแดงหวานฉ่ำน้ำเพิ่มความสดชื่นได้เป็นอย่างดีในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ แต่อาจปนเปื้อนแบคทีเรียลิสเทอเรียซึ่งสามารถเจริญเติบโตได้บนเปลือกของผลไม้ลูกกลมชนิดนี้ ดังนั้น ก่อนทานควรล้างให้สะอาด
ปกติแล้วเมื่อมีอาการ อาหารเป็นพิษ สามารถดูแลตัวเองได้ที่บ้าน แต่หากอาการรุนแรงขึ้น เช่น มีไข้สูง อาเจียนหรือถ่ายไม่หยุด รวมทั้งมีอาการต่อเนื่องนานหลายวัน หรือมีโรคประจำต้วเรื้อรัง เช่น มะเร็ง โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง โรคลิ้นหัวใจ เบาหวาน ควรพบแพทย์ และเนื่องจากโรคมาตามอากาศ บางครั้งยากต่อการควบคุม เพิ่มความอุ่นใจให้ตัวเองและเงินสำหรับอนาคตด้วยแผนประกันสุขภาพ ประกันมะเร็ง หรือประกันชีวิต เลือกได้ตามไลฟ์สไตล์ จ่ายหลักพันบาทต่อเดือน แต่ไม่กังวลหากต้องแอดมิทนอนโรงพยาบาล ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Gen Health Lump Sum สามารถอ่านข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสุขภาพจากผู้รู้ได้ที่บล๊อก Gen Health Guru ของเจนเนอราลี่นะครับ