บทความนี้นั้นเริ่มต้นมาจากมีเพื่อนๆ ท่านหนึ่งถามมาว่า “เคยอ่านแล้วเจอข้อมูลที่ว่า ใน 1 วัน เราไม่ควรทานน้ำตาลเกิน 10% จากปริมาณแคลอรี่ที่กำหนดในแต่ละวัน แล้วน้ำตาลที่มาจากผลไม้ล่ะ จะส่งผลด้วยเหมือนกันหรือเปล่า?”
เฮียเชื่อเลยนะครับ ว่าหลายๆ คนน่าจะมีเรื่องสงสัยอย่างเดียวกันนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนที่รักสุขภาพ กลัวว่าทานน้ำตาลมากเกินไปจะส่งผลเสียต่อระบบภายในร่างกาย หรือในกลุ่มของผู้ที่กำลังลดน้ำหนัก ดังนั้น เฮียเลยไปหาข้อมูลและเจอหัวหน้ากองบรรณาธิการ นายแพทย์ Hope Ricciott ได้กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า…
“เป็นเรื่องที่ดีมากครับ ที่หลายคนเป็นห่วงหรือว่ากังวลเกี่ยวกับปริมาณของน้ำตาลที่ควรบริโภคต่อวัน แต่อยากให้ทุกคนโฟกัสไปที่น้ำตาลจากอาหารสำเร็จรูปอื่นๆ มากกว่าผลไม้ เพราะในงานการศึกษาเล็กๆ ไม่พบว่ามีผลร้ายใดๆ กับคนที่กินผลไม้ราวๆ 20 เสิร์ฟต่อวันติดต่อกัน 12-24 สัปดาห์”
จริงๆ แล้วต้องบอกว่าในผลไม้เองก็อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์อย่างที่เราเคยได้อ่านกันมาในหลายๆ บทความ ไม่ว่าจะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ หรือว่าไฟเบอร์สูง แต่แน่นอนว่าผลไม้ทั้งหลายย่อมมีส่วนประกอบของน้ำตาลอยู่ ซึ่งน้ำตาลที่ว่านั้นก็มีขนาดเล็ก ซึ่งเอนไซม์ย่อยอาหารจะทำหน้าที่แบ่งเจ้าเซลล์เหล่านั้นให้เป็นอิสระส่งต่อเข้าสู่กระแสเลือดอย่างช้าๆ
ตัวอย่าง เพื่อนๆ กินแอปเปิ้ลไป 1 ผล จะรู้สึกอิ่มอยู่ เมื่อเทียบกับกินโดนัท 1 ชิ้น มีโอกาสว่าจะหิวมากกว่าเดิม เหตุเพราะน้ำตาลจากแอปเปิ้ลและโดนัทนั้นต่างกัน
คุณหมอท่านเดิมยังได้บอกไว้อีกว่า “สนุกกับการทานผลไม้สุดโปรดดีกว่า แต่ระวังแค่ว่าต้องเป็นแบบสดๆ ประเภทน้ำผลไม้แบบนี้ต้องระวัง เพราะจะได้น้ำตาลเพิ่มโดยไม่จำเป็น แถมยังทำให้หิวเร็วกว่าเดิมด้วย”
ที่มา : Ask the doctors: How much fruit can I eat and stay within the sugar guidelines? โดย Health.harvard.edu
