“ไวรัสตับอักเสบซี” กว่าจะรู้ตัวว่าป่วย ก็ตับแข็งซะแล้ว!

0

นับเป็นอีกหนึ่งโรคร้ายที่ได้ชื่อว่าเป็นภัยเงียบเพราะเมื่อมีการรับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย ส่วนมากผู้ที่ได้รับเชื้อจะไม่รู้ตัว เนื่องจากไม่มีอาการป่วยใดๆ ปรากฏนอกจากเป็นสาเหตุของโรคตับอักเสบที่พบบ่อยในคนไทย เชื้อโรคชนิดนี้สามารถนำไปสู่โรคร้ายอย่างตับแข็งและมะเร็งตับได้เลยทีเดียว

“ไวรัสตับอักเสบซี”

โรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดซี สามารถติดต่อกันทางเลือด รวมถึงเพศสัมพันธ์ โดยอย่างหลังจะมีโอกาสเกิดค่อนข้างน้อยปัญหาของตับอักเสบเรื้อรัง คือ ไม่มีอาการ ทำให้ไม่รู้ตัว กว่าจะรู้ก็เป็นระยะสุดท้ายแล้ว โดยไวรัสตับอักเสบซีจะทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังของตับ เมื่อมีการอักเสบไปนานๆ จะเกิดพังผืดสะสมในตับจนกลายเป็นตับแข็งหรือมะเร็งตับในที่สุด

Hepatitis day poster

โรคตับอักเสบจากเชื้อไวรัสจะมีอาการคล้ายๆ กัน คือ ตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะสีเข้ม เบื่ออาหาร น้ำหนักลด อ่อนเพลีย บวม มีน้ำในช่องท้อง ปวดชายโครงขวา ปวดกล้ามเนื้อและปวดข้อ ตับโต ม้ามโต

สำหรับการแยกว่าอาการที่ป่วยเกิดจากเชื้อไวรัสชนิดใดนั้น ต้องใช้วิธีการตรวจทางห้องปฏิบัติการจึงจะทราบ ทั้งนี้หากมีอาการของโรคตับอักเสบเรื้อรังก็มักจะเกิดจากไวรัสตับอักเสบชนิดบีหรือซี

คนส่วนมากยังเข้าใจผิดกันอยู่ว่าคนที่เป็นพาหะไวรัสตับอักเสบ ไม่ใช่ผู้ป่วย เพราะไม่มีอาการ จึงไม่ตรวจประเมินอาการ แต่แท้จริงแล้วคนที่เป็นพาหะ ถือว่าเป็นผู้ป่วยด้วย เพราะมีการทำลายตับอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ยังไม่รุนแรงเท่านั้น ดังนั้น ผู้ที่เป็นพาหะควรมาตรวจประเมินเพื่อติดตามเป็นประจำทุก 6 เดือน เพื่ออัพเดทความเป็นไปของโรค

นอกจากนี้ยังมีความเข้าใจผิดหลายประการเกี่ยวกับการติดต่อของไวรัสตับอักเสบซี โดยคนเราไม่สามารถติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีจากสถานการณ์เหล่านี้ ได้แก่ การใช้ห้องน้ำร่วมกัน, การใช้ภาชนะในการรับประทานอาหารและดื่มร่วมกัน, การไอ จาม จูบกอด, การว่ายน้ำในสระเดียวกัน, ยุง แมลงสัตว์กัดต่อย

ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบซี ที่ได้ผลเป็นที่ยอมรับ จึงควรระวังการติดเชื้อผ่านทางเลือดและเพศสัมพัทธ์ อาทิ ไม่ใช้มีดโกนหนวด ไม่ใช้อุปกรณ์สัก-เจาะร่วมกันใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *