“ปวดหลัง” เป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย!
โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานหนักต้องก้มๆ เงยๆ อยู่เสมอ ผู้ใช้แรงงาน ผู้สูงอายุ หรือหญิงตั้งครรภ์ เป็นต้น เชื่อว่าทุกคนต้องเคยปวดหลังซักครั้งในชีวิตไม่ว่าจะสาเหตุจากอะไรก็ตามปกติอาการปวดเมื่อยบริเวณแผ่นหลังโดยไม่มีไข้จะหายได้เองใน 1 อาทิตย์
หากมีอาการปวดหลังติดต่อกันมากกว่า 1 อาทิตย์ ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาที่ถูกต้อง เพราะอาการปวดหลังที่หลายคนคิดว่าเป็นเพียงปวดหลังธรรมดาอาจเป็นโรคร้ายแรง เช่น ติดเชื้อบริเวณกระดูกสันหลัง หรือมะเร็งกระดูก อาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้และนี่คืออาการปวดหลังที่เป็นสัญญาณเตือนภัยจากโรคที่เกิดกับอวัยวะภายใน และจำเป็นต้องรีบเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที
“อาการปวดหลังร่วมกับแขนขาชาไม่มีแรง”
กลั้นปัสสาวะและอุจจาระไม่ได้ อาการดังกล่าวเป็นไปได้ว่าไขสันหลังได้รับบาดเจ็บ ควรรีบพบแพทย์เพื่อเอกซเรย์ตรวจดูกระดูกสันหลังและหาตำแหน่งที่บาดเจ็บ
“ปวดหลังบริเวณเอวและมีไข้หนาวสั่น”
อาจเกิดจากการติดเชื้ออักเสบของไต หรืออาจเป็นโรคกรวยไตอักเสบ โดยสาเหตุเหล่านี้เกิดได้จากการทานน้ำในแต่ละวันน้อยเกินไป การอั้นปัสสาวะ
“ปวดเหนือบั้นเอวทั้งสองข้าง”
อาจคลำพบก้อนบริเวณไต รวมถึงมีเลือดปนในปัสสาวะ มีความดันโลหิตสูง และมีภาวะโลหิตจางร่วมด้วย ในกรณีนี้เป็นสัญญาณบอกโรคถุงน้ำในไต
“อาการปวดหลังร่วมกับปวดขา”
บ่งชี้ว่าการรับน้ำหนักของข้อต่อกระดูกสันหลังหรือหมอนรองกระดูกสันหลังไม่ดีร่วมกับตัวโรคมีการรบกวนเส้นประสาทด้วย
“อาการปวดหลังในสตรีมีครรภ์”
อาจเป็นผลมาจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น การแบกรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นของทารก หรือมดลูกที่โตขึ้น กดทับเส้นประสาททำให้ปวดหลังจนร้าวไปถึงขาได้
“ปวดหลังเรื้อรังนานเป็นแรมเดือนและปวดมากขึ้นเรื่อยๆ”
หากเป็นในคนอ้วน หรือผู้ที่มีอายุมากกว่า 45 ปี อาจเกิดขึ้นเนื่องจากโรคไขข้ออักเสบ หรือกระดูกสันหลังสึกกร่อน อาการปวดหลังสามารถป้องกันด้วยการลดปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอาการปวดหลัง ได้แก่…
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวด (เช่น ยกของหนัก เล่นกีฬา) ไม่ทำงานหนักเกินไป
- หากต้องนั่งนานๆ ควรเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หมั่นบริหารกล้ามเนื้อหลังและหน้าท้องให้แข็งแรง
- กินอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสม
- หลีกเลี่ยงการดื่มสุราและสูบบุหรี่ เพราะสารนิโคตินทำให้หลอดเลือดหดตัว เลือดจึงไปหล่อเลี้ยงเซลล์ได้ไม่ดีส่งผลให้เกิดอาการปวดหลังเรื้อรัง
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีส่วนผสมของผงชูรส เพราะเป็นตัวบั่นทอนความแข็งแรงของกระดูก
ทั้งนี้ควรกินยาตามแพทย์สั่ง ไม่ควรซื้อยากินเอง