“มือ” เป็นอวัยวะที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิต เมื่อมีความผิดปกติหรือโรคเกิดขึ้นกับมือ ย่อมส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต ให้เป็นไปอย่างติดขัด ไม่ราบรื่น หนึ่งในโรคทางมือที่มีผู้ป่วยจำนวนมากในปัจจุบัน คือ “มือชาจากเส้นประสาทถูกกดทับ”ว่าแล้วเราไปเช็คสาเหตุของโรคเพื่อหาวิธีป้องกันตัวให้ห่างไกลจากโรคนี้กันเถอะ
“มือชาจากเส้นประสาทถูกกดทับ”
หรือ “กลุ่มอาการอุโมงค์ข้อมือ” เป็นกลุ่มอาการที่เส้นประสาท median ถูกกดรัดที่บริเวณข้อมือ (เส้นประสาทเส้นนี้จะผ่านจากแขน ไปยังข้อมือเพื่อไปรับความรู้สึกที่บริเวณมือ) ทำให้เกิดอาการมือชาหรือเป็นเหน็บที่นิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง และบางส่วนของนิ้วนาง บางครั้งอาจมีอาการปวดชาร้าวไปยังท่อนแขนหรือต้นแขนได้
ถ้ามีอาการมากขึ้น จะมีอาการปวดชาที่แขนมาก จนทำให้ผู้ป่วยตื่นขึ้นกลางดึก รู้สึกไม่ค่อยมีแรงเวลากำมือ มืออ่อนแรงหยิบจับสิ่งของไม่ได้ หากทิ้งไว้จะทำให้เกิดอาการฝ่อลีบของกล้ามเนื้อมือบริเวณโคนนิ้วหัวแม่มือ
มีหลายสาเหตุที่ทำให้เส้นประสาท median ที่อยู่ในอุโมงค์ด้านหน้าของข้อมือถูกกดรัด เช่น …
- การอักเสบบวมของเส้นเอ็นจากการใช้งานมือมาก
- การหนาตัวของเนื้อเยื่อพังผืดที่ข้อมือจากการใช้งาน โดยเฉพาะงานที่มีการสั่นสะเทือน หรือมีการกระดกข้อมือซ้ำๆ
- กระดูกข้อมือหัก หรือการหลุดเคลื่อนของข้อ
- โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
- การบวมน้ำจากโรคตับ ไตเบาหวาน หรือจากการตั้งครรภ์
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในหญิงวัยหมดประจำเดือน
หากมีอาการมือชาจากเส้นประสาทถูกกดทับในระยะเริ่มต้นซึ่งมีอาการไม่มาก นอกจากการงดใช้งานมือในลักษณะเกร็งนานๆแล้ว สามารถรักษาให้อาการดีขึ้นด้วยวิธีรับประทานยา แต่ถ้าผู้ป่วยมีอาการมานาน การรับประทานยาอย่างเดียวอาจไม่ได้ผล แพทย์อาจพิจารณาใช้ยาฉีดเพื่อลดอาการอักเสบและลดพังพืดบริเวณข้อมือหรืออาจต้องผ่าตัดเนื้อพังผืดในกรณีที่มีอาการมากหรือกล้ามเนื้อเริ่มอ่อนแรง หรือลีบลง และไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา
เพื่อป้องกันโรคนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้งานข้อมือต่อเนื่องนาน ๆ ควรหยุดพักเป็นระยะ ๆ รวมทั้งการป้องกัน รักษาและควบคุมโรคที่เป็นปัจจัยเสี่ยงนอกจากนี้ควรรับประทานอาหารที่มีวิตามิน บี1 บี6 และ บี12